ถ้าจะให้พูดตามตรง ต้องบอกเลยว่า สภาวะเศรษฐกิจโลกในตอนนี้ไม่ใช่ช่วงที่ลงทุนได้ง่ายๆ แต่เป็นช่วงที่ความเสี่ยงในระบบเศรษฐกิจโลกนั้นอยู่ในระดับที่สูงมาก การเก็บเงินในรูปแบบของ Money Market Fund หรือเงินสด ยังคงเป็นรูปแบบการเก็บเงินที่ดีในระยะที่ Fed หรือธนาคารกลางสหรัฐดำเนินนโยบายแข็งกร้าวทางการเงินโดยการขึ้นอัตราดอกเบี้ยที่ส่งผลให้สภาพคล่องทางการเงินเหือดหายไป การที่สภาพคล่องทางการเงินหายไป แน่นอนว่าย่อมส่งผลให้มูลค่าเงินสดเมื่อเทียบกับสินทรัพย์เสี่ยงอื่นๆ สูงขึ้น แม้จะมีข้อโต้แย้งในเรื่องเงินเฟ้อ แต่เราปฏิเสธไม่ได้ว่าในวันนี้ สินทรัพย์เสี่ยงในตลาดนั้นมูลค่าลดลงทั้งกระดานนับตั้งแต่ Fed เริ่มมีการเปลี่ยนทิศทางนโยบายทางการเงิน ดังนั้น เมื่อเทียบกันแล้ว การถือเงินสดในระยะนี้นับว่าสามารถคงมูลค่าได้ดีมากกว่าสินทรัพย์เสี่ยงอื่นๆ มาก อย่างไรก็ดี การถือเงินสดทั้งหมดคงไม่ใช่คำตอบในการบริหารจัดการทรัพย์สิน ดังนั้น เราลองมาดูทางเลือกอื่นๆ ในการลงทุนบ้าง ว่าเรามีทางเลือกอะไรที่เป็นโอกาสอีก เริ่มต้นที่หุ้นไทยโดยรวม หากมองที่สภาวะโดยรวมของเศรษฐกิจไทย นับว่าประเทศไทยมีความเสี่ยงน้อยบนหนี้ต่างประเทศ โดยเฉพาะหนี้สกุลเงินดอลล่าร์อันเป็นผลพวงของความระมัดระวังจากการได้รับบทเรียนในช่วงวิกฤติต้มยำกุ้ง เราเปิดรับชาวต่างชาติเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างเต็มที่ หากโชคดี ประเทศจีนเลิกนโยบาย Zero Covid และอนุญาตให้คนจีนเดินทางได้ในต้นปี 2023 ประเทศไทยก็สามารถได้อานิสงค์จากการเปิดประเทศของจีน ดังนั้น ถ้ามองในเชิงของเศรษฐกิจปี 2023 เทียบกับปี 2022 นับได้ว่าปี 2023 น่าจะสดใสมากกว่าปีนี้ หากไม่เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันอะไรขึ้น ความเสี่ยงของหุ้นไทยในปี 2023 จะอยู่ที่ความเสี่ยงภายนอก โดยเฉพาะอย่างยิ่งความเสี่ยงจากเศรษฐกิจโลกถดถอย...